ต๊ะตอนยอน ขับรถตะลอนเที่ยวน่าน

     
“น่าน” จังหวัดนี้ที่ใครมาก็หลงรัก ถึงจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ก็งามแต๊ๆ นัก แถมยังมีที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก และที่ช้อปปิ้งลําขนาด ก่อนที่ลมหนาวจะเซย์กู๊ดบาย Rentconnected.com จึงเลือกปักหมุดชวนเพื่อนๆ ไปส่งท้ายลมหนาวที่เมืองน่านกันค่ะ 

ทริปนี้เราไม่เน้นเที่ยวดอย แต่จะขับรถเที่ยวชิลล์ๆ ในอําเภอเมืองน่าน ต่อไปยังอําเภอเชียงกลาง แล้ววกกลับมาที่อําเภอปัว จึงเลือกเช่ารถเล็กที่คล่องตัวและประหยัดน้ํามัน ส่วนใครกําลังวางแพลนเที่ยวแบบยกแก๊งคลิกเลือกรถเช่าที่ Rentconnected.com พร้อมแล้วค่อยเก็บกระเป๋าตามเราไปตะลอนน่านกันเลย!!   

    Day 1 : เที่ยวเนิบๆ ใจกลางน่าน  

    เราปักหมุดเริ่มทริปเที่ยวในตัวเมืองกันก่อน เริ่มจากไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองน่านอย่างพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวงที่สันนิษฐานว่ามีอายุราวๆ 600 ปี สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้มาจากกรุงสุโขทัย ถือเป็นพระธาตุประจําคนเกิดปีเถาะตามคติความเชื่อการไหว้พระธาตุประจําปีเกิดแบบล้านนา แต่คนที่เกิดปีอื่นๆ ก็มาสักการะได้นะ ว่ากันว่าใครได้มาสักการะพระธาตุแช่แห้ง ชีวิตจะอยู่ดีมีสุข หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า…สาธุ 
    ที่ตั้ง : ถ.มหาพรหม ต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน จ.น่าน 
    พิกัด (GPS) : https://goo.gl/maps/C1f7kearLFo

      ก่อนจะเที่ยวกันต่อ เรามาประเดิมมื้อแรกด้วยอาหารพื้นเมืองที่ ร้านป้าวันดา 
      เป็นร้านข้าวซอยเจ้าประจําของคนท้องถิ่นที่เปิดขายมานานกว่า 35 ปี มีอาหารหลากหลายทั้งข้าวราดแกง ข้าวซอยหมูและไก่ ขนมจีนน้ําเงี้ยว ข้าวกั๊นจิ้น หมูสะเต๊ะ ส้มตํา แล้วล้างปากด้วยขนมหวานไทยๆ อย่างสาคูเผือกมะพร้าวอ่อน แกงบวดฟักทอง รสชาติหวานพอดี ไม่แสบคอ และหอมกะทิแท้ ใครอยากลิ้มลองรสชาติอาหารพื้นบ้านแต๊ๆ แบบที่ไม่ได้เอาใจนักท่องเที่ยว แถมยังได้อิ่มครบทั้งคาว-หวานในร้านเดียวล่ะก็ต้องร้านนี้ 
      ที่ตั้ง : ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน จ.น่าน เปิดทุกวันตั้งแต่ 07.00-15.00 น. โทร.089-838-5382 
      พิกัด (GPS) : https://goo.gl/maps/xELLcL65dc92

        อิ่มท้องแล้วไปกันต่อที่ย่านข่วงเมืองน่าน (ลานหน้าวัดภูมินทร์) 
        ที่เปรียบเสมือนห้องรับแขกกลางเมืองเพราะล้อมรอบไปด้วยสถานที่สําคัญๆ สามารถเดินเท้าเที่ยวชมได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นวัดภูมินทร์ ที่อยู่คู่เมืองน่านมากว่า 400 ปีแล้ว สร้างโดยเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย 4 องค์ หันหน้าออกประตูทั้ง 4 ทิศ แล้วยังได้ชมฮูปแต้มหรือภาพจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องราวในพุทธชาดกและวิถีชีวิตน่านในอดีต หนึ่งในภาพไฮไลต์ที่กลายเป็นภาพจําของเมืองน่านจนใครๆ อยากมาดูของจริง อยู่บริเวณบานประตูทางทิศตะวันตกคือ ภาพกระซิบรักบันลือโลกของปู่ม่านย่าม่านนั่นเอง 
        ที่ตั้ง : ถนนผากอง ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน จ.น่าน 
        พิกัด (GPS) : https://goo.gl/maps/H8fEFmkUEW62 


        จากลานข่วงเมือง เราเดินข้ามฝั่งมายัง หอคําหรือพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน
        เพื่อชมงาช้างดําและเรื่องราวของเมืองน่านผ่านโบราณวัตถุต่างๆ ในพิพิธภัณฑ์ ซึ่งด้านในของพิพิธภัณฑ์ห้ามถ่ายรูปนะจ๊ะ และแน่นอนเราไม่พลาดถ่ายรูปที่จุดเช็กอินยอดฮิตกับอุโมงค์ต้นลีลาวดี ซึ่งอยู่ด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์นั่นเอง ช่วงหน้าหนาวแบบนี้ต้นลีลาวดีทิ้งใบก็จะดูโกร๋นๆ หน่อย แต่ได้ภาพแสงเงาของกิ่งก้านดูสวยไปอีกแบบ 
        ที่ตั้ง : ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน จ.น่าน โทร. 054-772-777 
        พิกัด (GPS) : https://goo.gl/maps/iUHafUYruC92


        ถ่ายรูปกันจนหนําใจแล้วค่อยเดินข้ามฝั่งมาไหว้พระขอพรที่ วัดพระธาตุช้างค้ําวรวิหาร ที่มีอายุมากกว่า 600 ปี 
        ภายในพระวิหารทรงล้านนามีพระประธานองค์ใหญ่ที่งดงามตามแบบศิลปะเชียงแสนจากฝีมือช่างสกุลน่าน สิ่งที่น่าชมอีกอย่างคือ เจดีย์วัดพระธาตุช้างค้ําซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นมาพร้อมๆ กับการสร้างเมือง เป็นเจดีย์ทรงลังกาที่มีรูปปั้นช้างครึ่งตัวอยู่รอบๆ ฐาน ดูเหมือนฐานช้างที่รองรับเจดีย์อยู่ จึงเป็นที่มาของชื่อวัดพระธาตุช้างค้ํา เชื่อว่าหากใครได้มาสักการะจะมีสิ่งดีๆ คอยค้ําจุนให้การงานและชีวิตมั่นคง 
        ที่ตั้ง : ถนนสุริยพงษ์ ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน จ.น่าน 
        พิกัด (GPS) :
        https://goo.gl/maps/9S9U2yruN982

        มาเที่ยวน่านต้องไม่พลาดกาแฟสดเพราะเป็นแหล่งปลูกกาแฟคุณภาพดี เราเลือกไปนั่งเนิบๆ สูดกลิ่นหอมของกาแฟน่านที่ ร้านเฮือนฮังต่อ กาแฟน่าน ร้านนี้ได้รวบรวมเมล็ดกาแฟขึ้นชื่อจากดอยต่างๆ ในน่านมาให้คอกาแฟได้ลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็นกาแฟสายพันธุ์เบอร์บอนจากบ้านสันเจริญ กาแฟเกอิชาจากบ้านมณีพฤกษ์ กาแฟอราบิก้าคาติมอร์จากบ่อเกลือ และขอแนะนํากาแฟเฮือนฮังต่อที่ผสมผสานรสชาติกาแฟจาก 4 แหล่งปลูก พร้อมชีสเค้กนุ่มลิ้น…กินคู่กันฟินกระจายไปเลย 
        ที่ตั้ง : 149/2 ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน จ.น่าน เปิดทุกวันตั้งแต่ 08.00-16.00 น. โทร. 054-059-693 
        พิกัด (GPS) :
        https://goo.gl/maps/4THG4yeguw92


        ตกเย็นได้เวลาไปเดินเล่นที่ถนนคนเดิน กาดข่วงเมืองน่าน ซึ่งจะจัดกันเฉพาะวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ตั้งแต่เย็นย่ําไปจนถึง 4 ทุ่มโดยประมาณที่บริเวณถนนผากองข้างวัดภูมินทร์และลานข่วงเมือง มาเดินช้อปสินค้าพื้นเมืองและงานแฮนด์เมดเก๋ๆ นั่งกินอาหารบนขันโตก ชมการแสดงวัฒนธรรม ฟังเพลงพื้นบ้าน รอบๆ วัดภูมินทร์และวัดพระธาตุช้างค้ํายังประดับไฟสวยงามด้วย อิ่มแปร้แล้วเราตรงดิ่งเข้าที่พักน่ารักๆ ที่ชื่อ “บ้านพระจันทร์” และหลับใหลในทันทีที่หัวถึงหมอน


        Day 2 : ระหว่างทางที่เชียงกลาง

        เช้าวันที่สองของทริป เราตื่นกันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางเพื่อขึ้นไปรอรับแสงแรกของวันใหม่ พร้อมชมวิวเมืองน่านที่ วัดพระธาตุเขาน้อย ตั้งอยู่บนยอดดอยเขาน้อย ทางตะวันตกของตัวเมือง สามารถขับรถขึ้นมาได้เลย องค์พระธาตุเป็นศิลปะพม่าผสมล้านนา มีลานชมวิวที่ประดิษฐานพระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน เป็นพระพุทธรูปปางประทานพรบนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร และยังเป็นมุมมหาชนที่หลายคนมารอถ่ายภาพความสวยงามของแสงแรกจากด้านหลังองค์พระ ในบางวันอาจได้เห็นทะเลหมอกห่มเมืองน่านด้วย 
        ที่ตั้ง : ค.ดูใต้ อ.เมืองน่าน จ.น่าน 
        พิกัด (GPS) :
        https://goo.gl/maps/C7RfVXrwDmm


        เราลงจากดอยเขาน้อยเมื่อแดดสายเพราะได้เวลาเดินทางต่อไปยังเชียงกลาง อําเภอเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองน่าน 76 กิโลเมตร ขับรถชิลๆ ชมวิวภูเขาสลับทุ่งนาไปตามทางหลวงสาย 101 ไม่นานก็เข้าเขตอําเภอเชียงกลาง จุดหมายแรกของเราคือ พระธาตุจอมกิตติ อยากขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ของเมืองนี้แบบเต็มตา แต่น่าเสียดายที่เราไปในช่วงหลังเก็บเกี่ยวข้าว เลยได้เห็นแต่แปลงนาสีน้ําตาลแทน ถึงอย่างนั้นก็ดูสวยไปอีกแบบ นอกจากนี้แดดแจ่มๆ ยังช่วยขับรัศมีของพระธาตุจอมกิตติให้เรืองรอง ตามประวัติว่าเป็นพระธาตุเก่าแก่ที่ภายในบรรจุพระเกศาของพระพุทธเจ้า จึงเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวเชียงกลางเป็นอย่างมาก 
        ที่ตั้ง : ต.พระพุทธบาท อ.เชียงกลาง จ.น่าน 
        พิกัด (GPS) :
        https://goo.gl/maps/UK2u56huroA2


        เสร็จจากไหว้พระธาตุ เราตั้งใจจะไปเที่ยวน้ําตกตาดม่านซะหน่อย แต่ด้วยระยะทางและเวลาจึงเปลี่ยนพิกัดมานั่งหย่อนขาแช่น้ําเล่นเย็นใจที่ แก่งสะม้าเก้าบั้ง แทน ที่นี่มีลักษณะเป็นแก่งหินกั้นขวางลําน้ําน่านเป็นขั้นๆ รวมระยะทางประมาณ 3 กม. สองฟากฝั่งลําน้ําเป็นภูเขาและต้นไม้น้อยใหญ่ บรรยากาศดูร่มรื่นน่าพักผ่อน ในหน้าร้อนจะกลายเป็นที่ปิกนิกและเล่นน้ํายอดฮิตประจําอําเภอ ทั้งยังสามารถล่องแพไปตามลําน้ําหรือจะตั้งแคมป์พักแรมก็ได้ 
        ที่ตั้ง : ต.พระพุทธบาท อ.เชียงกลาง จ.น่าน 
        พิกัด (GPS) :
        https://goo.gl/maps/HiGuTBTFEYw


        ก่อนเช็กอินเข้าที่พัก เราได้เจอกับ บ้านน้อยหน่า ร้านอาหารที่สายชิลไม่ควรพลาด!! ถ้าดูจากหน้าร้านอาจจะธรรมดาๆ แต่หลังร้านนี่สิ...บรรยากาศโคตะระดีเพราะอยู่ริมแม่น้ําน่าน มีที่นั่งทั้งอินดอร์และเอาต์ดอร์ แต่มุมเทควิวสุดๆ ของร้านอยู่ที่ระเบียงชั้น 2 ตอนเย็นนั่งกินลมชมส่วนโค้งเว้าของแม่น้ําน่านได้สบายๆ จะเน้นกับแกล้มหรือกินอิ่มก็มีให้สั่งหลายอย่าง ส่วนมื้อสุดหิวของเราจัดไปทั้งไก่ทอดมะแขว่น ก๋วยเตี๋ยวต้มยําทะเล ผัดไทกุ้งสด รสชาติอาหารจัดว่าอร่อยทีเดียว ตบท้ายด้วยกาแฟเย็นชื่นใจ 
        ที่ตั้ง : 29 ม. 1 ต.พระพุทธบาท อ.เชียงกลาง จ.น่าน เปิดทุกวันตั้งแต่ 10.00-22.00 น. โทร. 085-694-9596 
        พิกัด (GPS) : https://goo.gl/maps/ducBuc8qSc82


        ค่ําคืนในเชียงกลาง เราเข้าพักที่ แสงทอง รีสอร์ท ที่พักสบายๆ ริมทุ่งนา มีห้องพักให้เลือกหลายสไตล์ และกิจกรรมหลากหลายให้นักท่องเที่ยวได้ใช้เวลาพักผ่อนอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นปั่นจักรยานชมธรรมชาติและชุมชนรอบๆ รีสอร์ท เยี่ยมชมสวนผักอินทรีย์ สระว่ายน้ํา ร้านกาแฟ ร้านขายสินค้าโอท็อป รวมถึงมีมุมถ่ายรูปน่ารักๆ มากมายในรีสอร์ทด้วย 
        ที่ตั้ง : 555 ม. 5 ต.เชียงกลาง อ.เชียงกลาง จ.น่าน โทร. 083-707-0555 
        พิกัด (GPS) :
        https://goo.gl/maps/SJ5PtQWa8o42

        จุดเช็กอินสุดท้ายในเชียงกลาง เราไปชมสถาปัตยกรรมท้องถิ่นที่สร้างมานานกว่า 200 ปีของวิหารไม้ไทลื้อ วัดหนองแดง เป็นวิหารไม้รุ่นสุดท้ายที่ชาวบ้านช่วยกันดูแลรักษาเอาไว้ ภายใต้หลังคาแป้นเกล็ดของวิหาร มีพระบัวเข็มเป็นพระประธานประดิษฐานบนฐานชุกชีที่เรียกว่านาคบัลลังก์ ด้านหลังองค์พระมีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวเกี่ยวกับทศชาติชาดกและพระโพธิสัตว์จากฝีมือช่างสกุลน่าน และคันทวยสลักลายสัตว์ป่าหิมพานต์สอดแทรกปริศนาธรรม วิหารไม้นี้จึงนับเป็นพุทธศิลป์ถิ่นล้านนาที่หาชมได้ยากจริงๆ 
        ที่ตั้ง : บ้านหนองแดง ต.เปือ อ.เชียงกลาง จ.น่าน 
        พิกัด (GPS) : https://goo.gl/maps/EPWL5BK4aGA2 


        Day 3 : สุดทางที่เมืองปัว 

        นาทีนี้เมืองปัวเนื้อหอมจริงๆ มีที่พักที่กินเปิดใหม่หลายแห่ง และบางแห่งก็ฮอตซะเหลือเกิ๊น หนึ่งในนั้นคือ Cocoa Valley Café คาเฟ่สุดชิลสไตล์ลอฟต์ที่โดนใจคนรักโกโก้และช็อกโกแลตเข้าเต็มๆ เพราะขนมและเครื่องดื่มทุกเมนูใช้โกโก้แท้ 100% จากไร่โกโก้อินทรีย์ที่ทางร้านปลูกเองและแปรรูปโดยคนในชุมชน และไหนๆ เรามาถึงแหล่งโกโก้ทั้งทีก็ต้องโด๊ปโกโก้เข้าเส้นให้เต็มที่ ทั้งโก้โก้ร้อน-เย็นรสเข้ม เค้กช็อกโกแลตลาวาเยิ้มๆ บราวนี่เนื้อแน่น และช็อกโกแลตโดมแสนอร่อย  
        ที่ตั้ง : ต.ปัว อ.ปัว จ.น่าน โทร. 063-791-1619 เปิดบริการตั้งแต่ 10.00-18.00 น. 
        พิกัด (GPS) :
        https://goo.gl/maps/2YWsG5oGb6y


        นั่งชิลไปกับโกโก้ได้สักพัก ถึงเวลางานช้อปต้องมา เริ่มจากแหล่งทอผ้าของ กลุ่มทอผ้าไทลื้อบ้านเก็ต ที่มีป้าหลอมหรือศตานันท์ เนตรทิพย์ เป็นประธานกลุ่ม สืบทอดวิถีการทอผ้าตามภูมิปัญญาดั้งเดิม ตั้งแต่ปลูกฝ้าย ใช้เปลือกไม้ย้อมเส้นใย จนถึงขั้นตอนทอลายเฉพาะถิ่น เช่น ลายน้ําไหล ลายสร้อยดอกหมาก ลายคําเคิบ ฯลฯ กว่าจะได้ผ้านุ่งผืนสวยหรือชุดพื้นเมืองงามๆ สักชุด ขอบอกว่าไม่ง่ายเลย ใครอยากได้ผ้าทอไทลื้อคุณภาพดี ฝีมือประณีตต้องมาที่นี่ ใกล้กันยังเป็นที่ตั้งของวัดภูเก็ตและจุดชมวิวถ่ายภาพมุมสูงที่มองเห็นทิวทัศน์ทุ่งนาและวิวภูคาได้ 
        ที่ตั้ง : ต.วรนคร อ.ปัว จ.น่าน โทร. 081-180-2964 
        พิกัด (GPS) : https://goo.gl/maps/opYfmjPMdJq


        เรื่องผ้าๆ ยังไม่จบ คราวนี้เราไปช้อปผ้าเขียนเทียนที่ บ้านวิชัย ผ้าเขียนเทียน ซึ่งตอนนี้มีน้องไหม ลูกสาวเป็นหัวเรี่ยวหัวแรง นําผ้าย้อมครามของชาวม้งแต่เดิมมาเพิ่มลายให้โดดเด่นขึ้น โดยใช้แม่พิมพ์ลายที่ออกแบบเอง นํามาจุ่มเทียนที่ต้มให้ละลายแล้วปั๊มลงบนผ้า ก่อนนําไปย้อมครามจึงจะได้ผ้าสําหรับตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าน่าใช้ ทั้งกางเกงเด็กดอย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ กระโปรง เดรส ฯลฯ ได้มาซื้อผ้าเขียนเทียนถึงแหล่งผลิตหรือชมขั้นการทําแบบใกล้ชิดก็สามารถติดต่อกับน้องไหมได้เลย 
        ที่ตั้ง : บ้านป่ากลาง ต.ป่ากลาง อ.ปัว จ.น่าน โทร. 089-952-6830 
        พิกัด (GPS) : https://goo.gl/maps/S4p4Kh2zeKp


        จากนั้นมาละลายทรัพย์ในกระเป๋ากันต่อที่ ร้านนําชัย เครื่องเงิน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านน้องไหม ผ้าเขียนเทียน ที่นี่ผลิตเครื่องเงินมาหลายสิบปี ส่งให้ร้านเครื่องเงินในน่าน รวมถึงมีหน้าร้านของตัวเองและยังส่งออกต่างประเทศด้วย ลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านนําชัยได้แรงบันดาลใจมาจากรังนก ใช้เทคนิคการสานและถักเส้นเงินเล็กๆ ให้สอดรับกัน จนกลายเป็นกําไลหรือแหวนที่ดีไซน์ดูร่วมสมัย ซื้อไปแล้วใส่ได้หลายโอกาส…แบบนี้แหละถึงจะคุ้มค่า 
        ที่ตั้ง : 177 ม. 1 บ้านป่ากลาง ต.ป่ากลาง อ.ปัว จ.น่าน โทร. 081-951-6974 
        พิกัด (GPS) :
        https://goo.gl/maps/kEsifSFzf7H2


        น่านนิรันดร์ รีสอร์ท อีกหนึ่งที่พักในทริปนี้ที่อยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวดังๆ ในปัว กับบรรยากาศวิถีเกษตรอินทรีย์ที่มีทั้งแปลงนา แปลงผักไฮโตรโปรนิกส์ สตรอว์เบอร์รี่ และดอกไม้ แล้วยังมีลําธารเล็กๆ ในรีสอร์ท ช่วยให้การพักผ่อนไม่น่าเบื่อ แล้วยังตอบโจทย์คนช่างเลือกเพราะมีห้องพักหลายอารมณ์ ตั้งแต่บ้านสีขาวสไตล์โมเดิร์น บ้านไทยร่วมสมัย และคุ้มน่านนิรันดร์ที่คล้ายๆ บ้านต้นไม้ สิ่งอํานวยความสะดวกสบายพร้อมสรรพ ร้านกาแฟก็มี ที่สําคัญคือ อาหารเช้าอร่อย โดยเฉพาะข้าวต้มหมูและน้ําเต้าหู้ใบเตย 
        ที่ตั้ง : 243 หมู่1 บ้านนาคํา ต.ศิลาเพชร อ.ปัว จ.น่าน โทร. 094-445-9163, 080-242-4936 
        พิกัด (GPS) :
        https://goo.gl/maps/eFGvDFpiYg92


        นอกจากวิวงามๆ ของนาข้าวจรดทิวเขา ปัวยังมีจุดเที่ยวชมธรรมชาติหลายแห่ง จากน่านนิรันดร์ รีสอร์ตที่เราเข้าพัก ขับรถไม่กี่นาทีก็มาถึงจุดชมวิว ลําน้ําย่าง ที่บริเวณด้านหลังศิลาเพชรโฮมสเตย์ แล้วยังมี วังศิลาแลง ที่ได้รับการขนานนามว่า “แกรนด์แคนยอนเมืองปัว” เป็นเส้นทางไหลของลําน้ํากูนผ่านซอกหินผาระยะทางประมาณ 400 เมตร เกิดเป็นรอยโค้งบนหินผาจากแรงกัดเซาะของน้ําวน บางช่วงกลายเป็นวังน้ํา ถ้ามาในช่วงน้ําแล้งจะมองเห็นริ้วรอยของน้ําบนโตรกหินได้ชัดเจนและสามารถลงไปเดินเล่นในน้ําได้


        จะลาจากเมืองปัวด้วยความหิวโหยคงไม่เข้าท่า เพราะที่นี่ยังมีของอร่อยๆ แบบที่สายกินทั้งหลายไม่ควรพลาดนั่นคือ พิซซ่าเห็ดแป้งบางกรอบ อบร้อนๆ หอมๆ จากเตา เป็นซิกเนเจอร์เมนูของร้านอาหารดังแห่งเมืองปัวอย่างฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ํา สําหรับเราจัดไปเลย 3 ชิ้น!! นั่งล้อมวงกินพิซซ่าแกล้มวิวทุ่งนาและขุนเขา ท่ามกลางอากาศเย็นสดชื่นในช่วงส่งท้ายลมหนาว…แค่นี้ก็แฮปปี้สุดๆ 
        ที่ตั้ง : 129 บ้านหัวน้ํา ต.ศิลาแลง อ.ปัว จ.น่าน เปิดทุกวันยกเว้นวันพุธตั้งแต่ 08.00-16.30 น. โทร. 054-792-252 
        พิกัด (GPS) : https://goo.gl/maps/PX2tYD4nfDK2


        3 คืน 4 วันกับการเช่ารถขับไปสัมผัสลมหนาวในเมืองน่าน นั่งห้อยขา ดื่มโกโก้ ชมธรรมชาติ เรียนรู้วิถีพื้นถิ่น ที่พักดี อาหารดี แวะช้อปปิ้งด้วย และที่สําคัญมีเพื่อนร่วมทางดีๆ ทริปเที่ยวน่านคราวนี้ดีต่อใจจริงๆ

        Contact

        Tel:   080-549-5491

        E-mail: [email protected]

        Add Line: เพิ่มเพื่อน

           Follow Me