
เรื่อง ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤตขาดทุนอย่างรุนแรง โดยอัตราความเสียหาย (Loss Ratio) ในตลาดสูงถึง 120% ซึ่งสูงกว่ารถยนต์ทั่วไปมาก สาเหตุหลักมาจากต้นทุนการซ่อมแซมรถ EV ที่สูงกว่ารถยนต์สันดาปถึง 50% โดยเฉพาะราคาอะไหล่อย่างแบตเตอรี่ที่มีสัดส่วนถึง 70-80% ของมูลค่ารถยนต์ ส่งผลให้บริษัทประกันต้องปรับเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นราว 10-15% เพื่อรักษาสมดุลธุรกิจและลดการขาดทุน
สถานการณ์ตลาดและสาเหตุขาดทุน
ตลาดประกันภัยรถ EV มีการขาดทุนสะสมสูง เนื่องจากค่าใช้จ่ายซ่อมแซมแพงกว่าและมีอัตราความเสียหายสูง ส่วนหนึ่งเพราะดีไซน์รถ EV มักเปลี่ยนชิ้นส่วนทั้งชิ้นแทนการซ่อมแซมแบบเดิม ทำให้ต้นทุนสูงกว่ารถทั่วไป นอกจากนี้การแข่งขันด้านราคาอย่างดุเดือดยิ่งทำให้ไม่สามารถตั้งเบี้ยประกันให้เหมาะสมได้
แนวโน้มราคาเบี้ยประกัน ใประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้านปี 2568
บริษัทประกันหลายแห่งเตรียมปรับเบี้ยขึ้น 10-15% โดยเฉพาะในบางแบรนด์และรุ่นรถที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อสอดคล้องกับต้นทุนและความเสียหายที่เพิ่มขึ้น แม้จะมีการลดราคารถ EV ในบางกรณี แต่ค่าซ่อมและอะไหล่ยังสูงอยู่ ส่งผลต่อราคาประกันที่ไม่ลดลงตาม
กลยุทธ์และทางแก้ไขในอุตสาหกรรม
สมาคมประกันวินาศภัยและบริษัทประกันเริ่มปรับกลยุทธ์ เช่น การแยกกรมธรรม์ระหว่างตัวรถกับแบตเตอรี่เพื่อลดความเสี่ยง และเรียกร้องให้รัฐบาลควบคุมราคาชิ้นส่วนอะไหล่เพื่อลดต้นทุน นอกจากนี้บางบริษัทยังคงยืนยันการดูแลลูกค้าอย่างเต็มที่และคำนึงถึงความคุ้มค่าของผู้เอาประกัน
ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า EV ในไทยกำลังเผชิญความท้าทายจากต้นทุนการซ่อมที่สูงและความเสียหายที่พุ่งสูง ส่งผลให้เบี้ยประกันมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นในปี 2568 เพื่อรักษาความมั่นคงทางการเงินของบริษัทประกันและรองรับการเติบโตของตลาด EV ที่รวดเร็วขึ้นในอนาคต
rentconnected.com ให้บริการเช่ารถทั่วไทย พร้อมโปรโมชั่นมากมายตลอดปี