อนาคตของประเทศไทย การเดินทางจะสามารถเชื่อมต่อกันได้ด้วยระบบโครงข่ายคมนาคมที่กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค นอกจากนี้ยังมีรถไฟฟ้า BTS และ MRT รวมถึงรถไฟฟ้าสายอื่น ๆ ซึ่งยังเตรียมความพร้อมในการขับเคลื่อนแผนพัฒนารถไฟความเร็วสูงในหลายเส้นทางตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) เพื่อเพิ่มความรู้จักรถไฟความเร็วสูง โดยมีเส้นทาง ระยะทาง และสถานีที่เปิดให้บริการ และผลกระทบที่เกิดขึ้นเมื่อเปิดใช้งาน
High Speed Rail (HSR)
รถไฟความเร็วสูง (High Speed Rail: HSR) เป็นระบบรถไฟระหว่างเมืองที่เดินรถด้วยความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้รางขนาดความกว้างมาตรฐาน (Standard Gauge) ในการเดินรถ มีขั้นตอนการเดินทางไม่ยุ่งยากเท่าการโดยสารโดยเครื่องบิน
สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย ถือเป็นโครงการเมกะโปรเจกต์ มีเป้าหมายในการพัฒนาเศรษฐกิจ และเชื่อมโยงตลาดการค้า ระหว่างกลุ่มประเทศแถบลุ่มแม่น้ำโขง เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นศูนย์กลางของอินโดจีน ตามแผนจะก่อสร้างทั้งหมด 4 สาย ได้แก่ สายเหนือ, สายตะวันออก, สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายใต้
โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็นระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ในแต่ละสาย เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดใช้บริการ จะช่วยอำนวยความสะดวกด้านการเดินทาง สนับสนุนเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ให้มีความรุดหน้า กระจายความเจริญไปยังทุกภูมิภาคของประเทศ
รถไฟความเร็วสูง มีเส้นทางไหนบ้าง ระยะทาง และสถานี
รถไฟความเร็วสูง ตามแผนมีการพัฒนาทั้งหมด 4 สาย กระจายเส้นทางไปในภูมิภาคต่าง ๆ ดังนี้
1. สายเหนือ
รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-พิษณุโลก-เชียงใหม่ ระยะทางรวม 669 กิโลเมตร ประกอบไปด้วยสถานีรถไฟความเร็วสูง จำนวน 12 สถานี ได้แก่
- สถานีกลางบางซื่อหรือกรุงเทพอภิวัฒน์
- สถานีดอนเมือง
- สถานีอยุธยา
- สถานีลพบุรี
- สถานีนครสวรรค์
- สถานีพิจิตร
- สถานีพิษณุโลก
- สถานีสุโขทัย
- สถานีศรีสัชนาลัย
- สถานีลำปาง
- สถานีลำพูน
- สถานีเชียงใหม่
2. สายตะวันออกเฉียงเหนือ
รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา-หนองคาย ระยะทางรวม 609 กิโลเมตร ประกอบไปด้วยสถานีรถไฟความเร็วสูง จำนวน 11 สถานี ได้แก่
- สถานีกลางบางซื่อหรือกรุงเทพอภิวัฒน์
- สถานีดอนเมือง
- สถานีอยุธยา
- สถานีสระบุรี
- สถานีปากช่อง
- สถานีนครราชสีมา
- สถานีบัวใหญ่
- สถานีบ้านไผ่
- สถานีขอนแก่น
- สถานีอุดรธานี
- สถานีหนองคาย
3. สายตะวันออก
รถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ระยะทางรวม 220 กิโลเมตร ประกอบไปด้วยสถานีรถไฟความเร็วสูง จำนวน 9 สถานี ได้แก่
- สถานีดอนเมือง
- สถานีกลางบางซื่อหรือกรุงเทพอภิวัฒน์
- สถานีมักกะสัน
- สถานีสุวรรณภูมิ
- สถานีฉะเชิงเทรา
- สถานีชลบุรี
- สถานีศรีราชา
- สถานีพัทยา
- สถานีอู่ตะเภา
4. สายใต้
รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์ ระยะทางรวม 970 กิโลเมตร ประกอบไปด้วยสถานีรถไฟความเร็วสูง จำนวน 12 สถานี ได้แก่
- สถานีกลางบางซื่อหรือกรุงเทพอภิวัฒน์
- สถานีนครปฐม
- สถานีราชบุรี
- สถานีเพชรบุรี
- สถานีหัวหิน
- สถานีประจวบคีรีขันธ์
- สถานีชุมพร
- สถานีสุราษฎร์ธานี
- สถานีทุ่งสง
- สถานีพัทลุง
- สถานีหาดใหญ่
- สถานีปาดังเบซาร์
รถไฟความเร็วสูง เปิดใช้เมื่อไหร่
สายรถไฟความเร็วสูง | ระยะทาง (กม.) | จำนวนสถานี | ปีที่คาดว่าจะเปิดใช้ |
รถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ-พิษณุโลก-เชียงใหม่ | 669 | 12 | เฟส 1 ปี 2572 เฟส 2 ปี 2575 |
รถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ-นครราชสีมา-หนองคาย | 609 | 11 | เฟส 1 ปี 2569-72 เฟส 2 ปี 2573 |
รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา | 220 | 9 | เฟส 1 ปี 2571-73 เฟส 2 ปี 2576 |
รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์ | 970 | 12 | เฟส 1 ปี 2575 เฟส 2 ปี 2580 |
1. รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-พิษณุโลก-เชียงใหม่ ระยะทาง 669 กิโลเมตร จำนวน 12 สถานี คาดว่าจะเปิดใช้ปี 2575 แบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่
- ระยะที่ 1 กรุงเทพ-พิษณุโลก คาดเปิดใช้ปี 2572
- ระยะที่ 2 พิษณุโลก-เชียงใหม่ คาดเปิดใชปี 2575
2. รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 609 กิโลเมตร จำนวน 11 สถานี คาดว่าจะเปิดใช้ปี 2571 แบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่
- ระยะที่ 1 กรุงเทพ-นครราชสีมา คาดเปิดใช้ปี 2569 เตรียมขบวนรถรุ่น Fuxing Hao (ฟู่ซิงห้าว) มาใช้วิ่งให้บริการ ระยะทางรวม 253 กม.
คาดว่าโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน จะนำขบวนรถรุ่น Fuxing Hao (ฟู่ซิงห้าว) CR300AF มาใช้วิ่งให้บริการ แบ่งประเภทที่นั่งได้ 3 ระดับ ได้แก่ ชั้นหนึ่ง (ที่นั่งแบบเก้าอี้เดี่ยว) ชั้นสอง (ที่นั่งประเภทธุรกิจ) และชั้นสาม ความจุ 600 คน/ขบวน ต่อพ่วงได้ 3-10 คัน/ขบวน สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 5 หมื่นคน/ชั่วโมง/ทิศทาง - ระยะที่ 2 นครราชสีมา-หนองคาย คาดเปิดใช้ปี 2571 มีจำนวน 5 สถานี ระยะทาง 355 กิโลเมตร
3. รถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ระยะทาง 220 กิโลเมตร จำนวน 9 สถานี คาดว่าจะเปิดใช้ปี 2580 แบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่
- ระยะที่ 1 ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา คาดเปิดใช้ปี 2571
โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินเป็นโครงการที่ใช้โครงสร้างและแนวเส้นทางการเดินรถเดิมของระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแอร์พอร์ตลิงค์ (Airport Rail Link) ที่เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน โดยจะก่อสร้างทางรถไฟขนาด 1.435 เมตร (Standard Gauge) ส่วนต่อขยาย 2 ช่วงจากสถานีพญาไท ไปยังสนามบินดอนเมือง และจากสถานีลาดกระบังไปยังสนามบินอู่ตะเภา พร้อมเชื่อมเข้าออกสนามบิน โดยใช้เขตทางเดิมของการรถไฟฯ เป็นส่วนใหญ่ รวมระยะทาง 220 กม. มีผู้เดินรถรายเดียวกัน ซึ่งรถไฟความเร็วสูงมีความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง เชื่อมกรุงเทพฯ กับพื้นที่ อีอีซี ภายในระยะเวลาไม่เกิน 60 นาที - ระยะที่ 2 อู่ตะเภา-ระยอง-ตราด คาดเปิดใช้ปี 2576
4. รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 970 กิโลเมตร จำนวน 12 สถานี คาดว่าจะเปิดใช้ปี 2580 แบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่
- ระยะที่ 1 กรุงเทพ-หัวหิน คาดเปิดใช้ปี 2575
- ระยะที่ 2 หัวหิน-สุราษฎร์ธานี-ปาดังเบซาร์ คาดเปิดใช้ปี 2580
รถไฟความเร็วสูง ส่งผลอะไรบ้าง
- อำนวยความสะดวกด้านการเดินทางของประชาชน สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
- เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ สนับสนุนเศรษฐกิจ เชื่อมต่อการค้าการลงทุน
- เกิดการจ้างงาน สร้างอาชีพ ขณะดำเนินการก่อสร้าง
- เกิดการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานี ตามแนวเส้นทาง มีการให้เช่าพื้นที่ การค้าขายและการบริการ
- เกิดการขยายตัวของเมือง แหล่งงาน แหล่งอยู่อาศัยใหม่
- มีการพัฒนาเมืองตามแนวเส้นทาง ให้เป็นศูนย์กลางความเจริญของภูมิภาค
- ส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ
ในอนาคต เมื่อโครงการเมกะโปรเจ็กต์อย่างรถไฟความเร็วสูงแล้วเสร็จ ไม่เพียงแต่จะสามารถเชื่อมต่อเมือง ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการเดินทาง ส่งผลต่อเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว กระจายความเจริญไปยังทุกภูมิภาคของประเทศเท่านั้น รวมทั้งยังทำให้เกิดทำเลที่อยู่อาศัยใหม่ ๆ แหล่งงาน เแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ เพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาค ช่วยลดความแออัดในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้อีกทางหนึ่ง