“ช้อปดีมีคืน” ลดหย่อนภาษี ค่าซื้อสินค้า-บริการ ตามจริง ไม่เกิน 30,000 บาท

ช้อปดีมีคืน

สรุป “ช้อปดีมีคืน” ลดหย่อนภาษี ค่าซื้อสินค้า-บริการ ตามจริง ไม่เกิน 30,000 บาท

“ช้อปดีมีคืน” คือ 1 ใน 3 ของมาตรการของรัฐบาลที่ออกมาช่วงปลายปีเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชนในช่วงปลายนี้

1. มาตรการเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14 ล้านคน คนละ 1,500 บาท

2. มาตรการคนละครึ่ง กระตุ้นค่าใช้จ่ายโดยประชาชนออกครึ่งหนึ่ง และรัฐบาลออกอีกครึ่ง

อ่าน (สรุปโครงการ “คนละครึ่ง” ซื้อสินค้ารัฐจ่ายให้ 50% รวม 3,000 บาท พร้อมวิธีใช้งาน)

3. มาตรการช้อปดีมีคืน กระตุ้นการบริโภคประชาชนในกลุ่มที่เสียภาษี ด้วยการลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท/คน

สาระสำคัญของมาตรการ
กำหนดให้ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล หักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการเท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้า หรือค่าบริการสำหรับการซื้อสินค้าหรือการรับบริการในประเทศที่จ่ายให้กับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงค่าซื้อหนังสือและค่าบริการหนังสือที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต และค่าสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 โดยไม่รวมถึง รายการต่อไปนี้

  • ค่าสุรา เบียร์ และไวน์
  • ค่ายาสูบ
  • ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ
  • ค่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
  • ค่าหนังสือพิมพ์และนิตยสารและค่าบริการหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
  • ค่าบริการจัดนำเที่ยว
  • ค่าที่พักในโรงแรม

ทั้งนี้ ผู้มีเงินได้ ต้องไม่ได้รับสิทธิ์ตามโครงการคนละครึ่ง หรือโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ที่สำคัญอย่าเข้าใจผิดว่าช้อป 30,000 บาท แล้วจะได้เงินคืน 30,000 บาท
อยู่ที่ฐานภาษี ถ้าฐานภาษีของคุณอยู่ที่ 10% คุณก็สามารถลดภาษีได้ 3,000 บาท หากคุณใช้จ่ายถึง 30,000 บาท

โดยผู้มีเงินได้ต้องจ่ายค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และได้รับใบกำกับภาษีเต็มรูป

เว้นแต่ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่ในส่วนค่าซื้อหนังสือและค่าบริการหนังสือที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต และค่าสินค้า OTOP ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมพัฒนาชุมชุนแล้ว

คาดว่าจะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นประมาณ 111,000 ล้านบาท และส่งผลให้ GDP เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.30 ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งจะเป็นการขยายฐานภาษีและส่งผลดีต่อการจัดเก็บรายได้ภาษีของรัฐในระยะยาว

รองโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการดังกล่าวเป็นหนึ่งในมาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งประกอบด้วย 3 โครงการ/มาตรการ ได้แก่

  • “โครงการคนละครึ่ง” จะช่วยเหลือดูแลพ่อค้าแม่ค้าขนาดเล็กที่ประกอบกิจการขายสินค้าหาบเร่แผงลอยที่เป็นบุคคลธรรมดา
  • “โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” จะช่วยเหลือผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยการเพิ่มวงเงินพิเศษ สำหรับซื้อสินค้าบริโภคอุปโภคที่จำเป็น 500 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน
  • “มาตรการช้อปดีมีคืน” จะช่วยเหลือผู้ประกอบการ รวมถึงการส่งเสริมการผลิตสินค้าท้องถิ่นและส่งเสริมการอ่าน

ทั้งนี้ โครงการ/มาตรการดังกล่าวจะครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายกว่า 28 ล้านคน โดยคาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 192,000 ล้านบาท ส่งผลให้ GDP เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.54

Rentconnected.com #เช่ารถได้ง่ายกว่า

จองง่ายและฟรี ที่ rentconnected.com
🚗 รับและคืนต่างที่ได้ ไม่มีจำนวนวันเช่าขั้นต่ำ
✈️ ครบ 30 สนามบิน มีบริการส่งตามเงื่อนไข
🛡️ ฟรีประกันภัยการเดินทาง จาก ทิพยประกันภัย
💳 ผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิตได้ สูงสุด 10 เดือน
❌เปลี่ยนแปลง หรือ ยกเลิก ฟรี
🧾ออกใบเสร็จ ใบกำกับเต็มรูปแบบได้